ในการแข่งขันวิ่งมาราธอน  

ที่ต้องวิ่งในระยะทางทีไกลมาก เพื่อให้ถึงเป้าหมาย และชัยชนะ   แต่หากคุณเป็นนักวิ่งมาราธอน ที่ในช่วงต้น คุณกลับออกตัวอย่างเต็มที่   และวิ่งให้เร็วสุดแรง เท่าที่จะทำได้   คุณก็จะหมดแรงอย่างรวดเร็วสุดท้ายคุณก็จะไม่ถึงจุดหมายปลายทาง และพ่ายแพ้ในการแข่งขัน(ตลาด)ในที่สุด

 ชีวิตการเป็นเทรดเดอร์ก็เหมือนการวิ่งแข่งมาราธอน 

ที่ต้องมีการฝึกฝนเตรียมตัวเป็นอย่างดี รู้จักออมแรงเพื่อให้ชนะในการแข่งขัน (การเทรด) พูดง่ายๆว่า หากคุณไม่มีความรู้ ไม่รู้จักฝึกฝน ไม่มีการเตรียมตัว และไม่มีทักษะที่เหมาะสมมากพอ คุณจะไม่มีวันที่จะชนะในการเทรดบนตลาด Forex นี้ได้เลย วันนี้ผมจึงมีข้อคิด ที่มีเหตุผล และจำเป็นสำหรับทุกท่าน ในการเอาชนะตลาด Forex ให้ได้ในระยะยาวครับ

เคยได้ยินเรื่อง กระต่าย กับ เต่า ไหม ?

จำนิทานเรื่อง กระต่าย กับ เต่า ได้มั้ยครับ เพราะมันก็สามารถประยุกต์ใช้ เข้ากับ ชีวิตการเทรดได้เหมือนกัน โดยบุคลิกของ “กระต่าย” นั้นมีความมั่นใจ เย่อหยิ่ง และขี้เกียจ เกินไป ที่สำคัญมันชอบใช้อารมณ์ในการคิด และทำ มากกว่าใช้เหตุและผล ในทางกลับกัน บุคลิกของ “เต่า” แม้จะเชื่องช้า แต่มีความสม่ำเสมอ มีระเบียบแบบแผน ไม่รีบร้อน และมัน จะไม่ใช้อารมณ์ในการตัดสินใจ ซึ่งเราเองก็รู้ดี ว่าท้ายที่สุดแล้ว ใครจะเป็นผู้ชนะในนิทานเรื่องนี้

ในการเทรดชีวิตจริง ให้อยู่รอดได้ในตลาดระยะยาว

คนที่ช้ามักจะชนะเสมอ จากประสบการณ์ที่ผมเคยพบเจอมา เหตุผลเพราะว่า ถ้าคุณออกตัวเร็วเกินไป เหมือนเทรดเดอร์ส่วนใหญ่ที่เค้าทำกัน คือพยายามจะทำเงินให้ได้เร็วๆ โดยการเทรดที่บ่อยๆ หรือ ใช้ความเสี่ยงมากจนเกินไป ในการเทรดแต่ละไม้สุดท้ายคุณจะพ่ายแพ้ และล้างพอร์ต จนต้องออกจากตลาดไปในที่สุด แต่ในทางกลับกัน หากคุณค่อยๆเทรดไปเรื่อยๆ
โดยที่ไม่ใช้ความเสี่ยงมากเกินไป และไม่ได้เทรดบ่อยมากจนเกินไป กระบวนการเทรดที่เชื่องช้า แต่มีความถูกต้องนี้ จะช่วยทำให้คุณ สามารถแซงหน้า คนที่ทำกำไรได้ไวๆ ในที่สุด (เพราะพวกนั้นพอร์ตแตกกลางทาง)

ถ้าคุณอยากเป็นเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จในระยะยาว

คุณจำเป็นต้องช้า และสม่ำเสมอในการเทรด หากคุณเทรดบ่อยไป หรือใช้ความเสี่ยง มากจนเกินไป คุณจะผลาญเงินในพอร์ตของคุณ ไปจนหมดตัว และต้องออกจากการแข่งขัน เร็วกว่ากระต่ายเสียอีก

เคล็ดลับ ที่ไม่เชื่อ ก็ต้องเชื่อ !!!

หากเมื่อไดก็ตาม ที่คุณมีความกังวล เกี่ยวกับการเทรดมากจนเกินไป จนไม่สามารถหยุดเฝ้ามองกราฟได้ (เฝ้ากราฟทั้งวัน) มันจะนำคุณมาซึ่งความเครียด ที่เป็นอุปสรรค ต่อการเทรดเป็นอย่างมาก ตามประสบการณ์ของผมแล้ว มันจะมาซึ่งความสูญเสียเงินในพอร์ตอย่างรวดเร็ว คุณควรที่จะปิดกราฟ และไปทำอย่างอื่นซะ และ รอจนกว่าจะถึงเวลาที่ควรเปิดกราฟจริงๆก่อน ค่อยกลับมาดู โดยสัญญากับตัวเองเสมอว่า “ไม่ว่าผลลัพท์จะออกมาเป็นอย่างไร ในตอนที่กลับมาดูกราฟ ขอให้จงเป็นอย่าง เต่า ไม่ใช่ กระต่าย”

รู้จักออมแรงเพื่อชัยชนะ

เทรดเดอร์ส่วนใหญ่ มักไม่มอง ที่ผลการเทรดในภาพรวมหลายๆออเดอร์ รวมๆกัน แต่เทรดเดอร์ส่วนใหญ่ มักเพ่งโฟกัส
แค่การเทรดในครั้งนั้น ครั้งเดียว และโดยมาก มักจะไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ เพียงเล็กๆน้อยๆ ครั้งนั้น ครั้งเดียวได้เลย

ในการเทรดครั้งเดียวหรือในแต่ละครั้งที่เทรด

เราไม่ควรให้ความหมายกับมันมากนัก เราอย่าให้การเทรดครั้งใด ครั้งหนึ่ง มีความสำคัญมากเกินไป ด้วยการเสี่ยงเงินก้อนที่ใหญ่มากขึ้น เพียงเพราะ ได้ยินมาว่า,  รู้มาว่า,  เคยเจอมาว่า จนทำให้คุณเกิดความอยากที่จะเอาชนะมากเกินไป จำไว้เสมอว่า….ผลลัพท์ขจากการเทรด โดยรวมหลายๆครั้งสำคัญกว่าผลลัพท์การเทรด แค่ครั้งเดียว

คุณมาเพื่อชนะสงครามทั้งหมด  

ไม่ใช่มาเพื่อชนะการรบแค่ครั้งเดียว เรียนรู้ที่จะ กำหนดขอบเขตความสามารถ ของทักษะการเทรดของคุณ และกำหนดขอบเขตในการเทรดของคุณให้อยู่ในกรอบที่คุณทำได้จริง (อย่าเทรดเกินกว่าทักษะที่คุณมี) หรือรู้จักรอ ให้ราคา หรือสภาวะตลาด เข้ามาอยู่ในขอบเขตที่คุณกำหนดเอาไว้แล้วเท่านั้น คุณจึงสามารถเทรดได้

นักเทรดมาราธอนต้องรู้จักฝึกฝนและวางแผน 

หากคุณคิดว่า การเปิดบัญชีเทรด แล้วเริ่มต้นเทรดเงินจริงๆเลย และสามารถทำเงินได้รวดเร็วในทันที เป็นความคิดที่ยอดเยี่ยม และถูกต้อง

คุณกำลังคิดผิดอย่างถนัด

คุณต้องฝึกฝน (เรียนรู้จากเดโมเทรด) ก่อนจะลงสนามเทรดจริง หรือ Backtest จนกว่าคุณจะรู้จักระบบ และสภาวะตลาดที่มากพอ เพราะเป้าหมายของคุณคือ การชนะในระยะยาว ไม่ใช่ระยะสั้น มันอาจจะเป็นไปได้ ที่คุณจะโชคดีในการเทรดช่วงแรกๆ
ที่คุณจะสามารถทำเงินได้อย่างรวดเร็ว แต่มันจะไม่ยั่งยืน หากคุณไม่ทำทุกอย่างที่เราพูดมาในวันนี้ เพราะคุณจะเอากำไร กลับไปคืนตลาด อย่างรวดเร็ว

นักลงทุน หรือเทรดเดอร์ ที่มีชื่อเสียงระดับโลกทุกคน สร้างกำไรขึ้นได้ จากการเทรดในระยะยาว ไม่ใช่ระยะสั้นๆ

Warren Buffet – ทุกคนรู้เรื่องเขา เป็นนักทุนที่ยิ่งใหญ่ ที่สุดคนหนึ่ง ช้า มีแบบแผน สม่ำเสมอ

George Soros – อาจจะดูเหมือนเขา “รวยเร็ว” แต่ลองกูเกิ้ลประวัติเขาดู คุณจะเห็นว่าเขาทุ่มเทชีวิต ให้กับการเงินและการลงทุนเป็นเวลานาน ก่อนจะ ร่ำรวย และมีชื่อเสียง ขึ้นมาได้